วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เราจะผ่านมันไปด้วยกัน


อัพเดทเส้นทางจราจร16พ.ย.
กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) สรุปสถานการณ์น้ำท่วมช่วงเวลา 06.00 น.วันที่ 16 พ.ย. ดังนี้

        เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดลงแล้ว ถนนหลายสายเริ่มเปิดการจราจรให้รถผ่าน และเพื่อความปลอดภัยด้านการจราจร ประชาชนที่จอดรถหนีน้ำท่วมไว้บนสะพานข้ามแยกต่างๆ ควรเคลื่อนย้ายรถของท่านออก
ถนนลาดพร้าว ช่วงภาวนา รัชดาลาดพร้าว มุ่งหน้าปากทางลาดพร้าว ขณะนี้น้ำลดแล้วแต่ยังมีท่วมขังบางจุดรถเล็กสามารถผ่านได้
ถนนรัชดาภิเษก ช่วงธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าสวนสมเด็จฯ น้ำยังท่วมสูง รถเล็กผ่านลำบากควรเลี่ยง
กำแพงเพชร 3 ช่วงปากทางเข้ามาช่องขวา ตรงข้ามป้ายรถประจำทางธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ น้ำสูง 3 ซม.
เจ้าหน้าที่ท้องที่แจ้งว่า ผู้ที่ใช้ถนนลาดพร้าว ขาเข้าใช้การได้ตลอดสาย แต่ถ้าตรงไปศาลอาญา ใช้การไม่ได้ เนื่องจากน้ำยังท่วมสูง ส่วนที่เลี้ยวเข้าสุทธิสาร ใช้การได้
ช่วงรัชวิภา มุ่งหน้าแยกลาดพร้าว ยังผ่านไม่ได้ น้ำท่วมสูง แต่รถกระบะยกสูงยังพอผ่านได้
หน้าวัดเสมียนนารี น้ำยังท่วมสูงรถเล็กยังผ่านไม่ได้
ที่แยกเกษตรวันนี้น้ำลดอีก 2 ซม. แต่ยังสูงประมาณ 40 ซม.
        ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) สรุปสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 15 พ.ย. ว่า ภาพรวมในพื้นที่ กทม. ปริมาณน้ำทรงตัวและมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดตรวจวัดที่ปากคลองตลาดอยู่ที่ 2.34 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,398 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ลดลงจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 135 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3.75 ม.รทก. ลดลง 3 ซม. และคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะลดลงเรื่อยๆ จนถึงปลายเดือน พ.ย.นี้
คลองสายหลักแนวโน้มน้ำลด
- ระดับน้ำบริเวณดอนเมืองที่รั่วจากรังสิตลดลง 1 ซม.
- ระดับน้ำในคลองหกวาสายล่างที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ลดลง 3 ซม.
- ระดับน้ำในคลองเปรมประชากร ทางตอนบน (ดอนเมือง) ยังคงมีระดับสูงและล้นตลิ่ง พื้นที่ด้านในยังคงมีระดับสูง ซึ่งการรื้อแนวกระสอบทรายยักษ์หรือบิ๊กแบ็ก ทำให้ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ยังไม่เกิดผลกระทบที่ชัดเจน
- ระดับน้ำในคลองลาดพร้าว ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ยังคงมีระดับสูง
- ระดับน้ำในคลองบางซื่อช่วงถนนรัชดาภิเษก ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
- ระดับน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ยังคงมีระดับสูง และยังคงมีน้ำจากศาลายาหลากเข้าพื้นที่ลงสู่คลองทวีวัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน น้ำในพื้นที่ตอนเหนือของฝั่งธนบุรีเริ่มลดลง ซึ่ง กทม.คาดว่าจะยังคงรักษา 3 เขตฝั่งตะวันตกให้เป็นเขตปลอดน้ำท่วมได้ ได้แก่ คลองสาน ราษฎร์บูรณะ และทุ่งครุ โดย กทม.จะดำเนินการเรียงกระสอบทรายเสริมแนวคันป้องกันน้ำท่วมคลองมหาสวัสดิ์ ระยะทาง 7 กม. ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว 5.5 กม.
คลองล้นตลิ่ง
        ฝั่งพระนคร ระดับน้ำในคลองต่างๆ ที่ยังล้นตลิ่ง ได้แก่ คลองน้ำแก้ว ตอนถนนรัชดาภิเษก, คลองเปรมประชากร ช่วงวัดเทวสุนทร, คลองบางเขน ตอนถนนวิภาวดี, คลองบางซื่อ ตอนถนนพหลโยธิน, คลองลาดพร้าว ตอนวัดลาดพร้าว ซอยเสนานิคมและซอยลาดพร้าว 56 ฝั่งธนบุรี น้ำล้นตลิ่งคลองมหาสวัสดิ์ ตอนพุทธมณฑลสาย 2, คลองบางพรม ตอนคลองชักพระ ตอนถนนกาญจนาภิเษกและตอนถนนพุทธมณฑลสาย 3, คลองบางเชือกหนัง ตอนถนนพุทธมณฑลสาย 2, คลองบางแวก ตอนคลองทวีวัฒนา ตอนถนนพุทธมณฑลสาย 1, คลองบางจาก ตอนถนนพุทธมณฑลสาย 2, คลองพระยาราชมนตรี ตอนถนนพระราม 2
พื้นที่น้ำท่วมขัง
        ขณะเดียวกัน ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ เริ่มลดลงและบางพื้นที่แห้งแล้ว โดยเฉพาะบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ส่วนถนนพระราม 2 เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเพิ่มเติม ทำให้ยังไม่มีน้ำท่วมพื้นผิวถนน แม้ว่าน้ำได้แผ่ขยาย แต่ไม่เร็วมากนัก
ฝั่งพระนคร
1.ถนนกำแพงเพชร ตั้งแต่แยกตัดถนนพหลโยธิน-กำแพงเพชร 2 ระดับน้ำ 10-20 ซม.
2.ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่สะพานข้ามคลองบางซื่อถึงแยกสะพานควาย ระดับน้ำ 20-30 ซม.
3.ถนนวิภาวดี ตั้งแต่สะพานข้ามคลองบางซื่อถึงแยกสุทธิสาร ระดับน้ำ 20-30 ซม.
4.ถนนรามอินทรา ตั้งแต่ กม.5-8 ระดับน้ำ 20-30 ซม.
5.ถนนนวมินทร์ ตั้งแต่ซอย 147 ถึงแยกนวมินทร์-ซอยนวมินทร์ 68 ระดับน้ำ 40 ซม.
6.ถนนลาดปลาเค้า ตั้งแต่แยกลาดปลาเค้าถึงหน้าวัดใหม่เสนา ระดับน้ำ 40-50 ซม.
7.ถนนสายไหม น้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 40-50 ซม.
8.ถนนเสนานิคม 1 ตั้งแต่แยกเสนานิคมถึงแยกวังหิน ระดับน้ำ 40 ซม.
9.แยกวัดเสมียนนารี ระดับน้ำ 20-30 ซม.
10.ถนนนาวงประชาพัฒนา น้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ50 ซม.
11.ถนนบูรพา (ดอนเมือง) น้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 50 ซม.
12.ถนนกำแพงเพชร 2 ด้านหลังขนส่งหมอชิต 2 ระดับน้ำ 10 ซม.
13.ถนนนิมิตรใหม่ น้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 30-40 ซม.
14.ถนนเสรีไทย ตั้งแต่แยกมีนบุรีถึงแยกบางชัน ระดับน้ำ 20-30 ซม.
15.ถนนสวนสยาม ตั้งแต่แยกสวนสยามถึงแนก รพ.นพรัตน์ ระดับน้ำ 20-30 ซม.
16.ถนนสุวินทวงศ์ บริเวณแยกมหานาค น้ำท่วมขัง 300 เมตร ระดับน้ำ 40-50 ซม.
17.ถนนพระยาสุเรนทร์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 40-80 ซม.
18.ถนนเทอดราชันย์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
19.ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 5 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 80 ซม.
20.ถนนช่างอากาศอุทิศ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
21.ถนนกำแพงเพชร 6 (โลคัลโรด) ตั้งแต่หน้าหมู่บ้านเมืองเอกถึงวัดเสมียนนารี ระดับน้ำ 80-150 ซม.
22.ถนนสรงประภา ตั้งแต่แยกศรีสมานถึงแยก กสบ. ระดับน้ำ 80 ซม.
23.ถนนเชิดวุฒิอากาศ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 150 ซม.
24.ถนนโกสุมร่วมใจ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
25.ถนนเดชะตุงคะ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
26.ถนนเวฬุวนาราม (วัดไผ่เขียว) ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
27.ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 14 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 150 ซม.
28.ถนนเลียบคลองสอง ตั้งแต่แยกพลาธิการกองทัพอากาศถึงแยกสะพานปูน ระดับน้ำ 60 ซม.
29.ถนนจันทรุเบกษา ตั้งแต่แยกโรงเรียนนายเรือ (คปอ.) ถึงแยกจันทรุเบกษา ระดับน้ำ 60 ซม.
30.ถนนวัชรพล ตั้งแต่แยกตัดถนนเพิ่มสินถึงห้าแยกวัชรพล ระดับน้ำ 60 ซม.
31.ถนนเพิ่มสิน (ถนนพหลโยธิน 54/1 ถึงสุขาภิบาล 5) ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
32.ถนนสุขาภิบาล 5 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 60 ซม.
33.ถนนมัยลาภ น้ำท่วมขังเป็นระยะตลอดสาย ระดับน้ำ 30-50 ซม.
34.ถนนคู้บอน ตั้งแต่แยกตัดถนนรามอินทราถึงวัดคู้บอน ระดับน้ำ 40-50 ซม.
35.ถนนกรุงเทพกรีฑา ระดับน้ำ 10-40 ซม.
36.ถนนวิภาวดีรังสิต จากคลองบางซื่อถึงหน้าโรงเรียนเซนจอห์น ระดับน้ำแห้งทั้ง 2 ฝั่ง
37.ถนนพหลโยธิน แยกลาดพร้าวถึงตลาดนัดจตุจักร ระดับน้ำแห้ง
38.แยกลำสาลี เริ่มมีน้ำท่วม 5-10 ซม.
39.ถนนหทัยราษฎร์ ระดับน้ำลดลง 5-10 ซม.
ฝั่งธนบุรี
1.ถนนกัลปพฤกษ์ ขาออกจากถนนกาญจนาภิเษกถึงพระราม 2 ระดับน้ำ 20-30 ซม.
2.ถนนบางบอน 4 บริเวณตัดถนนเลียบคลองภาษีเจริญ ระดับน้ำ 40-50 ซม.
3.ถนนเทอดไทตลอดสาย ระดับน้ำ 30-60 ซม.
4.ถนนบางแค-บางบอนตลอดสาย ระดับน้ำ 30-40 ซม.
5.ถนนเอกชัย ตั้งแต่แยกตัดถนนบางบอน 1 ถึงถนนเอกชัย ซอย 66 ระดับน้ำ 30-60 ซม.
6.ถนนบางขุนเทียน ตั้งแต่แยกตัดถนนเอกชัยถึงทางรถไฟสายใต้ ระดับน้ำ 15 ซม.
7.ถนนกำนันแม้น ตั้งแต่แยกตัดถนนกัลปพฤกษ์ถึงถนนเอกชัย ระดับน้ำ 15-30 ซม.
8.ถนนสวนผัก ตั้งแต่แยกกาญจนาถึงสะพานข้ามทางรถไฟ ระดับน้ำ 70-100 ซม.
9.ถนนบางระมาด ตั้งแต่แยกตัดถนนกาญจนาถึงราชพฤกษ์ ระดับน้ำ 60-90 ซม.
10.ถนนทวีวัฒนา ตั้งแต่คลองทวีวัฒนาถึงถนนกาญจนาภิเษก ระดับน้ำ 40-60 ซม.
11.ถนนทวีวัฒนา ตั้งแต่ประตูระบายน้ำทวีวัฒนาถึงคลองบางไผ่ ระดับน้ำ 40-60 ซม.
12.ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตั้งแต่ขนส่งรถไฟสายใต้ถึงคลองบางไผ่ ระดับน้ำ 40-60 ซม.
13.ถนนทุ่งมังกร ตั้งแต่แยกตัดถนนบรมราชชนนีถึงถนนสวนผัก ระดับน้ำ 80-120 ซม.
14.ถนนฉิมพลี ตั้งแต่แยกทุ่งมังกรถึงหน้า สน.ตลิ่งชัน ระดับน้ำ 40-60 ซม.
15.ถนนชัยพฤกษ์ ตั้งแต่แยกตัดถนนบรมราชชนนีถึงวัดชัยพฤกษ์ ระดับน้ำ 40-60 ซม.
16.ถนนบางแวก ตั้งแต่คลองทวีวัฒนาถึง สน.บางเสาธง ระดับน้ำ 40-80 ซม.
17.ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 50-60 ซม.
18.ถนนพุทธมณฑ,สาย 3 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 50-80 ซม.
19.ถนนอุทยาน ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 50-70 ซม.
20.ถนนเพชรเกษม จากแยกพุทธมณฑลสาย 4 ถึงเพชรเกษม ซอย 18 ระดับน้ำ 40-100 ซม.
21.ช่วงคลองบางกอกใหญ่ไปราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกศม ระดับน้ำ 20 ซม.
22.ถนนเพชรเกษม ช่วง รพ.พญาไท 3 ระดับน้ำ 20-25 ซม.
23.ถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่สะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ถึงคลองบางไผ่ ระดับน้ำ 60-80 ซม.
24.ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 77-89 และซอย 43 ถึงคลองบางกอกน้อย ระดับน้ำ 70-150 ซม.
25.ถนนราชพฤกษ์ ตั้งแต่สะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ตัดถนนเพชรเกษม ระดับน้ำ 60-70 ซม.
26.ถนนราชพฤกษ์ช่วงสวนผัก น้ำแห้ง
27.ถนนสิรินทร ตั้งแต่แยกบางพลัดถึงทางต่างระดับสิรินทร ระดับน้ำ 60-150 ซม.
28.ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้าถึงแยกบรมราชชนนี ระดับน้ำ 80-150 ซม.
29.ถนนอรุณอมรินทร์ ถึงแยก รพ.ศิริราช ระดับน้ำ 80-150 ซม.
30.ถนนบรมราชชนนีถึงพุทธมณฑลสาย 2 รถเล็กวิ่งได้
31.ถนนบรมราชชนนีถึงทางต่างระดับสิรินทร (สายใต้เก่า) ระดับน้ำ 60-150 ซม.
32.ถนนบรมราชชนนี ตั้งแต่แยกพุทธมณฑลสาย 4 ถึงถนนราชพฤกษ์ ระดับน้ำ 60-80 ซม.
33.ถนนจอมทอง ถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ระดับน้ำลดลงเล็กน้อย
34.ถนนพระราม 2 ช่วงคลองระหาญ คลองเลนเปน ระดับน้ำเกือบแตะผิวจราจร
 
อัพเดทน้ำท่วม 15 พฤศจิกายน 54
        พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถเข็นพระที่นั่ง ลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปยังท่าน้ำบริเวณลานสระว่ายน้ำ สมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อทอดพระเนตรระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เอ่อล้นตลิ่งและปริ่มคันกั้นน้ำ...
        เมื่อเวลา 15.57 น. วันที่ 14 พ.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถเข็นพระที่นั่ง ลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปยังท่าน้ำบริเวณลานสระว่ายน้ำ สมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อทอดพระเนตรระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เอ่อล้นตลิ่งและปริ่มคันกั้นน้ำอยู่ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เชิ้ตแขนสั้นสีส้มขาว พระสนับเพลาสีกากี พระหัตถ์ซ้ายทรงถือสายจูงคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง โดยมี รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีนิน หัวหน้าสำนักงานศูนย์โรคหัวใจ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เข็นรถเข็นพระที่นั่งถวาย ท่ามกลางประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จฯ อย่างเนืองแน่น โดยขณะเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพักตร์ที่สดใส แย้มพระสรวลให้แก่พสกนิกรที่ต่างเปล่งคำถวายพระพรว่า “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องทั่วบริเวณ
        ต่อมาเวลา 17.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จประทับรถพระที่นั่งมายังบริเวณลานสระว่ายน้ำ ร่วมทอดพระเนตรระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในการนี้ทรงร่วมเสวยพระกระยาหารเย็นร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย กระทั่งเวลา18.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จกลับยังชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยใช้เวลาในการทอดพระเนตรน้ำเจ้าพระยา 3.40 ชั่วโมง
        น.ส.อรอนงค์ ทั่งศรี อายุ 32 ปี ชาว กทม. หนึ่งในผู้มาเฝ้ารับเสด็จฯ กล่าวว่า ดีใจที่เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง เสด็จฯทอดพระเนตรปริมาณน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และคิดว่าพระองค์ทรงเป็นห่วงประชาชนที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมมาก และอยากให้ประชาชนของพระองค์ผ่านวิกฤติในครั้งนี้โดยเร็ว.
ระดับน้ำท่วมขังเมืองกรุงเพิ่มขึ้น หลังรื้อบิ๊กแบ็ก
        ระดับน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร เริ่มมีระดับสูงขึ้นเล็กน้อย หลังมีการรื้อแนวบิ๊กแบ็กดอนเมือง...
        ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นหลายจุด หลังมีการรื้อบิ๊กแบ็ก โดยระดับน้ำคลองเปรมประชากร บริเวณดอนเมือง หลักสี่ สูงขึ้น 2 เซนติเมตร ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนที่ห้าแยกลาดพร้าวระดับน้ำสูงขึ้น 5-10 เซนติเมตร ขณะที่ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าสะพานควาย เริ่มมีน้ำผุดออกมาจากท่อ ส่วนคลองลาดพร้าว บริเวณริมถนนน้ำยังล้นตลิ่ง ทำให้น้ำในซอยเสนานิคมวัดลาดพร้าว และซอยลาดพร้าว 56 ระดับน้ำยังคงล้นตลิ่ง ส่วนทางด้านตะวันออก น้ำจากคลองแสนแสบ คลองประเวศบุรีรมย์ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตลอดลำคลอง ขณะที่น้ำในคลองบางซื่อ ช่วงถนนรัชดาภิเษก ระดับน้ำเริ่มทรงตัว
        ส่วนฝั่งธนบุรี น้ำนอกพื้นที่ยังทะลักเข้าอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีการแก้ไข ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ยัวงทรงตัว ขณะที่หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขัง เช่น ย่านสะพานใหม่ น้ำยังท่วมสูง เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ
        ส่วนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า หน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนถึง รพ.วิภาวดี ระดับยังอยู่ 1 เมตร 10 เซนติเมตร ส่วนหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระดับน้ำยังสูงเฉลี่ย 50 เซนติเมตร ด้านถนนพระราม 2 น้ำใกล้จ่อท่วม โดยระดับน้ำที่ซอย 69 สูงขึ้นเรื่อยๆ บางช่วงรถใหญ่ไม่สามารถสัญจรได้.
 น้ำเริ่มเอ่อถนนวิภาวดีรังสิตรอบ 2
        น้ำเริ่มเอ่อท่วมถนนวิภาวดีรังสิตอีกครั้ง หน้าตึกอีสวอเตอร์ น้ำเกือบเต็มถนน 4 เลน ในช่องทางคู่ขนาน ส่วนหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐยังแห้ง ขณะที่ห้าแยกลาดพร้าว น้ำกลับมาเอ่อท่วมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รถขนาดเล็กยังสามารถสัญจรไปมาได้...
        เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว จนไปถึงคลองบางซื่อ เริ่มมีน้ำเอ่อขึ้นในบางจุด โดยเฉพาะที่หน้าตึกอีสวอเตอร์ น้ำเริ่มขยายเป็นวงกว้าง โดยได้ท่วมพื้นที่ถนนเกือบเต็มทั้ง 4 เลน ในช่องคู่ขนานแล้ว แต่ระดับน้ำยังไม่สูงมากนัก แต่ที่บริเวณหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยังไม่มีน้ำท่วมขังแต่อย่างใด
        ขณะที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว น้ำที่ลดลงเมื่อวานนี้ กลับมาเอ่อท่วมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รถขนาดเล็กยังสามารถสัญจรไปมาได้ เช่นเดียวกับที่ถนนวิภาวดีรังสิตอย่างไรก็ตาม สาเหตุที่น้ำกลับมาเอ่อท่วมอีกครั้ง น่าจะเกิดจากการปล่อยให้น้ำล้นออกมาจากคันบิ๊กแบ็ก.
อัพเดทน้ำท่วม 14 พฤศจิกายน 54
รวมรายชื่อถนนแห้งทั่วกรุง ที่รถสามารถสัญจรไปมาได้แล้ว

        ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมขังโดยรวมในหลายพื้นที่ของ กทม.เริ่มลดระดับลง ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์จึงได้รวบรวบถนนที่รถสามารถสัญจรไปได้ตามปกติ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเดินทางในช่วงระยะนี้มาให้ได้ชมกัน...
ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 90 (รพ.ยันฮี) และ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 77 - แยกบางพลัด–แยกบรมราชชนนี และ ถ.ราชวิถี ตั้งแต่เชิงสะพานกรุงธน ถึงแยกบางพลัด รถเล็กสามารถสัญจรได้
ถ.บรมราชชนนี ตั้งแต่แยกบรมราชชนนี ถึงหน้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า รถเล็กสัญจรได้
ถ.ราชพฤกษ์ รถเล็กสัญจรได้ตลอดสาย
ถ.พระราม 2 ซอย 28 (หน้าวัดสีสุก) มีระดับน้ำท่วมสูง 3 – 5 ซม. ระยะทางยาว 10 เมตร ไม่มีปัญหาการจราจร
ปากซอยเทอดไท 34 มีระดับน้ำท่วมสูง 5 – 10 ซม. ระยะทางยาว 200 เมตร 1 ช่องทาง ไม่มีปัญหาการจราจร
ถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออกจากแยกกำแพงเพชร ถนนเริ่มแห้ง รถเล็กสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว ขณะที่
ถนนฝั่งขาเข้านั้น ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ระดับน้ำต่ำกว่าแนวฟุตปาทแล้ว แม้ยังมีน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมคลอง แต่มีปริมาณไม่มากนัก
ห้าแยกลาดพร้าว-แยกรัชดาลาดพร้าว น้ำลดลงต่อเนื่อง รถเล็กสามารถสัญจรได้บางช่วง เช่นเดียวกับพหลโยธิน ช่วงรัชโยธินถึงห้าเเยกลาดพร้าวน้ำลดลงเช่นกัน ส่วนถนนวิภาวดีรังสิตช่วงแยกสุทธิสาร รถเล็กสัญจรได้
ด้านซอยเสนานิคม วัดลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 56 ระดับน้ำลดลง 2-5 เซนติเมตร รถเล็กสามารถสัญจรได้บางช่วง
ถ.พระราม 2 ซ.66 – 68 ยังคงมีน้ำเอ่อล้นออกมาจากท่อระบายน้ำ ทำให้ในส่วนนี้มีน้ำท่วมในช่องคู่ขนาน 1 ช่องจราจร ระดับน้ำสูง 5 ซม. แต่ยังคงสัญจรได้
ช่วงถนนพระราม 2 ซอย 69 ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น บางจุดซึ่งพื้นที่ต่ำระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร ส่วนระดับน้ำบนถนน 20 ซม. ชาวบ้านบางคนยังไม่ยอมอพยพ เพราะคาดว่าน้ำจะไม่สูงกว่านี้ การเดินทางสู่ภาคใต้ถนนยังคงใช้การได้ปกติ
ทีมกรุ๊ป ห่วงรื้อบิ๊กแบ็ก ทำดินแดงเสี่ยงจมน้ำ
        นายชวลิต จันทรรัตน์ วิศวกรแหล่งน้ำ บริษัททีมกรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเดินน้ำ ได้เปิดเผย ภายหลังวานนี้ได้มีชาวบ้านย่านดอนเมืองบุกรื้อคันบิ๊กแบ้ก บริเวณ ถ.วิภาวดีขาออก ว่า
        การรื้อบิ๊กแบ็กในจุดดังกล่าว อาจทำให้หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครถูกน้ำท่วมได้ เนื่องจากน้ำมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้คลองบางซื่อไม่สามารถระบายน้ำทัน โดยจุดที่ต้องระวังคือ สุทธิสาร ซอยภาวนา เลขคู่ จากนั้นก็จะมาถึงห้วยขวาง และดินแดงในที่สุด
        ทั้งนี้ทางทีมกรุ๊ปเชื่อว่าการวางแนวบิ๊กแบ็กทำให้เกิดการแผ่กระจายน้ำ และการชะลอน้ำได้อย่างทั่วถึง โดยปริมาณน้ำหน้าแนวบิ๊กแบ็กกับหลังแนวบิ๊กแบ็กก่อนการถูกรื้อก็สูงแค่ 1ศอกเท่านั้น อย่างไรก็ดีหากมีการรื้อบิ๊กแบ็กจะเป็นสิ่งที่น่าวิตกยิ่งขึ้น นายชวลิตกล่าว
ชาวจีนตีแผ่ ภาพประทับใจ คนไทยยามน้ำท่วม
        นายวั่น ชุ่นเสียง เผยกับเว็บไซต์เดอะอีโพช ไทมส์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลายภาษาของกลุ่มสนับสนุนฝ่าหลุนกงว่า เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ในจังหวัดนนทบุรี ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ แถวบ้านเริ่มมีน้ำท่วมระดับเท้าตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม
        เขาไปตลาดเพื่อซื้ออาหารไว้สำรองเพราะเกรงว่าราคาจะปรับขึ้นพรวดพราดแต่กลับพบว่าราคาเท่าเดิม และเห็นสังเกตเห็นชาวบ้านย่านนั้นซื้ออาหารในปริมาณปกติ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดบอกว่า ทุกคนควรช่วยกันในยามวิกฤติ หากคนมาก่อนซื้ออาหารจำนวนมากไปกักตุนไว้ คนมาทีหลังก็จะไม่เหลืออะไรให้ซื้อ
        หลายวันต่อมาระดับเพิ่มสูงขึ้นเหนือเข่า เขาส่งครอบครัวย้ายไปยังที่พักปลอดภัยในกรุงเทพฯ แต่ตัวเองยังอยู่ช่วยเหลือแม่ลูกชาวจีนคู่หนึ่งที่สามียังไม่กลับจากต่างจังหวัด เขาเห็นชาวบ้านแถวนั้นพายเรือและแพไปตามตรอกซอกซอยอาสารับส่งเพื่อนบ้านโดยไม่เก็บเงินแม้แต่บาทเดียว
จนกระทั่งน้ำเริ่มสูงระดับเอว เขาและชาวบ้านในย่านนั้นตัดสินใจอพยพ เขายืนแช่น้ำรอรถทหารนานกว่า 2 ชั่วโมง เพราะไม่มีรถอื่นสามารถเข้ามาได้ สตรีคนหนึ่งซึ่งยืนคุยเป็นเพื่อนเขาขอให้ทหารซึ่งลากแพยางผ่านมาช่วยรับเขาไปด้วยทั้งที่บนแพมีหญิงชราวัย 90 กว่าปี 1 คน และชายวัย 60 กว่าปี 2 คน จนแทบไม่เหลือที่ว่างแล้ว
        เขาขอแค่วางกระเป๋าเสื้อผ้าบนแพและจะเดินลุยน้ำตามไป แต่ทุกคนคะยั้นคะยอให้ขึ้นไปนั่งบนแพ ระหว่างทางมีชายคนหนึ่งขอให้ชายชราอีกคนอาศัยไปด้วย เขาคิดจะสละที่ให้ แต่ทหาร 2 นายห้ามไว้
พร้อมกับอธิบายว่าจะต้องดูแลความปลอดภัยให้ชาวต่างชาติ ทำให้เขาตื้นตันจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ทุกครั้งที่เรือหรือแพผ่านกันผู้คนก็จะโบกไม้โบกมือ ยิ้มให้กำลังใจกัน
นายวั่น เผยด้วยว่า เห็นคนไทยจำนวนมากหอบหิ้วสุนัขและแมวมาด้วย พวกเขายอมทิ้งข้าวของแต่ไม่อาจทิ้งสัตว์เลี้ยงได้ ระหว่างทางยังมีจุดชั่วเหลือชั่วคราวขององค์กรการกุศลคอยแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม
        ขณะที่นายทหารจะลงจากรถทหารคอยวัดความลึกของน้ำเป็นระยะ ๆ ก่อนขับรถผ่านเพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนรถ และเมื่อเขาลงจากรถทหาร ทหารทุกนายยังอวยพรให้เขาโชคดีแล้วเริ่มภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไปทันที
        เขาประทับใจคนไทยมากที่มีน้ำใจและสุภาพแม้ประสบภัย แตกต่างจากเมื่อครั้งที่เขาเผชิญน้ำท่วมใหญ่ในจีนเมื่อปี 2541 ครั้งนั้นระดับน้ำแค่เท้าแต่ทุกคนแตกตื่นซื้อข้าวของจนหมดเกลี้ยงร้าน
สำนักข่าวไทย
..................................................................................
อัพเดทน้ำท่วม 11 พฤศจิกายน 54
บิ๊กแบ็กเจ๋ง กทม.คาดอีก 2 สัปดาห์ น้ำลดจากถนนสายหลัก
        บิ๊กแบ็กเจ๋ง ส่งผลให้ระดับน้ำในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครลดลง คาดอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ น้ำจะค่อยๆลดลงจากถนนสายหลัก...
        นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ กทม. ว่า หลังจากที่ได้มีการวางแนวบิ๊กแบ็ก ขณะนี้บิ๊กแบ็กเริ่มส่งผลในทางที่ดี น้ำได้ไหลออกไปตามเส้นทางน้ำ แม้ว่าในระยะแรกน้ำจะเพิ่มขึ้นจากแนวบิ๊กแบ็กถึง 15 เซนติเมตร แต่หลังระบบเริ่มทำงาน ขณะนี้ระดับน้ำด้านในและด้านนอก ต่างกันอยู่ 30 เซนติเมตร คาดว่าอีก 1-2 วัน ระดับน้ำจะค่อยๆลดลง ซึ่งในเช้านี้ ส่งผลให้ระดับน้ำหน้าบริษัทเดลินิวส์ ลดลง 18 เซนติเมตร หน้าบีทีเอส สถานีหมอชิตลดลง 5 เซนติเมตร คลอง 2 ลดลง 14 เซนติเมตร วัดลาดพร้าวระดับน้ำลดลง 2 เซนติเมตร ยืนยัน หากไม่มีมวลน้ำเข้ามาเพิ่มเติมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีก 2 สัปดาห์นับจากนี้ ระดับน้ำตามถนนสายหลักจะค่อยๆ ลดลง
เชื่อใครดี!! 2 สัปดาห์ กรุงเทพ พ้นหรือไม่พ้นวิกฤต

ทีมกรุ๊ป วิเคราะห์ ใน 2สัปดาห์ น้ำท่วมกรุงเทพคลี่คลาย
นายชวลิต จันทรรัตน์ วิศวกรแหล่งน้ำ บริษัททีมกรุ๊ป กล่าวในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ โดยประเมินว่าพื้นที่ กรุงเทพฯ ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก จะคลี่คลายจากสถานการณ์น้ำท่วมภายใน 2 สัปดาห์ หรือประมาณวันที่ 24 พ.ย. เป็นต้นไป
โดยทีมกรุ๊ป ประเมินว่า น้ำที่เข้ามาทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ มีแนวยบิ๊กแบ็คยาว 6 กม. สามารถชะลอน้ำให้ลดลงและแบ่งน้ำไปยังคลองหกวาเพื่อผันน้ำออกไปทางตะวันออกได้ ทำให้ภาระน้ำในคลองบางซื่อลดลง และสามารถสูบออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทัน
ด้านฝั่งตะวันตก ปล่อยให้น้ำไหลข้ามบางๆ สูง 20-30 ซม. เพื่อข้ามไปยังคลองสนามไชย และคลองมหาชัย เข้าสู่แก้มลิงและระบายลงทะเล ส่วนรอยรั่วตามประตูระบายน้ำต่างๆ ทางรัฐบาลก็จะเข้าไปอุด ซึ่งเมื่อซ่อมแซมเสร็จจะทำให้น้ำไม่เข้ามาเติมในพื้นที่เพิ่ม
ทั้งนี้กรมชลประทานก็ได้มีการเพิ่มเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหากดำเนินตามแผนคาดว่า 2 สัปดาห์น้ำน่าจะลดลง ยกเว้นมีการทำลายคันกั้นน้ำ
…………………………………………………………………………………….
ผู้ว่าฯ กทม. คาด 2 สัปดาห์ ถนนสายหลักน้ำแห้ง ถ้าไม่มีน้ำมาเพิ่ม
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ถนนวิภาวดีลดลง 17 ซม. หน้าบีทีเอสลดลง 18 ซม. คลอง 2 ลดลง 11 ซม. นอกคันบิ๊กแบคลดลง 10 ซม. ความต่างข้างนอกกับข้างใน 30 ซม.
สำหรับ ถนนเพชรเกษมระดับน้ำลดลงจากหลายวัน แต่ยังมีการแผ่กระจายอย่างช้าๆ ไม่รุนแรง หากยังเป็นเช่นนี้และไม่มีน้ำใหม่เข้ามาก็จะสามารถระบายน้ำในถนนสายหลักให้ สามารถกลับมาใช้สัญจรได้ตามปกติภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนในตรอกซอกซอยก็อาจต้องใช้เวลาในการระบายน้ำเพิ่มขึ้นแล้วแต่สถานการณ์
…………………………………………………………………………………….
รศ.ดร.เสรี ยัน 2 สัปดาห์ กทม. ยังไม่พ้นวิกฤติน้ำท่วม
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะไม่มีทางลดลงใน 2 สัปดาห์ ตามที่มีหลายฝ่ายคาดการณ์
เนื่องจาก ด้านตะวันออกของ กทม. ยังจะมีปริมาณน้ำเหนือค่อยๆ ทยอยเข้าสู่พื้นที่ กทม. อย่างต่อเนื่อง
ด้านตะวันตก ยังต้องใช้เวลาอีก 1 เดือนถึง 1 เดือนครึ่งในการระบายน้ำ

..........................................................
 ที่มา http://www.dmc.tv

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น